วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ลองหันมาสนใจดอกไม้ไทยๆที่กินได้ดูบ้าง ดอกขจร


ดอกขจร ยำดอกขจร ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้แล้วแกงส้มดอกขจรเครื่องปรุง ดอกขจร 2 ถ้วยตวงปลาช่อน (ขนาด ½ ก.ก.) 1 ตัว น้ำส้มมะขามเปียก ½ ถ้วยตวง น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ เครื่องน้ำพริกแกงส้ม พริกแห้ง 5 เม็ด กะปิ 1 ช้อนชา หอมแดงหั่น 1 ช้อนโต๊ะ นำเครื่องแกงโขลกให้ละเอียด วิธีทำ ปลาช่อนส่วนหางต้มสุกตักขึ้นและเอาแต่เนื้อ นำเนื้อปลามาโขลกรวมกับน้ำพริกแกงส้มให้ละเอียด นำมาละลายกับน้ำต้มปลา ใช้เป็นน้ำแกง ตั้งไฟให้เดือด ใส่ปลา ใส่น้ำปลา น้ำตาล พอเดือดใส่ดอกขจร เด็ดเป็นดอกๆ พอเดือดยกลงรับประทานได้ ...
.....
แกงจืดดอกขจรเครื่องปรุง หมูเนื้อแดงสับละเอียด 1 ถ้วยตวง กุ้งชีแฮปอกเปลือกผ่าหลัง 10 ตัว ดอกขจร 2 ถ้วยตวง รากผักชี 1 ราก กระเทียบสับ 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น ½ ช้อนชา น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำซุป 2 ถ้วยตวง น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ตั้งน้ำซุปให้เดือด ใส่หมูสับคนให้กระจายใส่น้ำปลา ใส่กุ้งพอน้ำซุปเดือด ใส่ดอกขจร ปิดฝา ยกลง เจียวกระเทียมให้เหลือง โรยหน้า โรยพริกไทย
...
.....
ไข่ตุ๋นดอกขจรเครื่องปรุง ไข่ไก่ 3 ฟอง ดอกขจร 50 กรัม น้ำซุป 1 ถ้วยตวง เนื้อปูนึ่งสุก 100 กรัม เนื้อหมูสับ 100 กรัม ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรสไก่ 1 ช้อนชา กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าหันเป็นเส้น สำหรับโรยหน้า วิธีทำ ผสมไข่ไก่ เนื้อปู เนื้อหมู ดอกขจร เครื่องปรุงรสทั้งหมด และน้ำซุป เข้าด้วยกันใส่ภาชนะทนร้อน นำไปนึ่งในรังถึง เมื่อสุกแล้วยกลงโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และพริกชี้ฟ้า จัดเสิร์ฟขณะร้อนๆ
...
.....
ข้าวต้มดอกขจร เครื่องปรุง ข้าวสวยกล้องหอมมะลิ ½ ถ้วย ดอกขจร ½ ถ้วย กระดูกสันหลังหมูติดเนื้อ 200 กรัม วิธีทำ ต้มกระดูกสันหลังในน้ำจนเปื่อย แกะเนื้อออกไว้ต่างหาก เอาน้ำต้มกระดูกหมูต้มให้เดือด ใส่ข้าวต้มจนข้าวสุก แล้วใส่ดอกขจร ต้มจนดอกขจรเปื่อย ใส่เนื้อหมู ปรุงรสด้วยเกลือจะดีกว่าใช้น้ำปลาเพราะจะทำให้คาว

ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม กุหลาบ


กุหลาบ
เป็นไม้พุ่มตั้งหรือเลื้อย ใบเป็นใบประกอบ ประกอบด้วย 3 ใบ หรือ 5 ใบ ขอบใบจัก หูใบติดกับก้านใบหรือเป็นอิสระ
ดอกออกที่ปลายกิ่ง มีทั้งดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ กลีบรองดอกเป็นรูปถ้วยสีเขียว ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกปกติมี 5 กลีบ เกสรตัวเมียอยู่กลางดอกเป็นผลกลม ภายในมีเมล็ดแข็งจำนวนมาก เกสรตัวผู้มีอยู่เป็นจำนวนมาก กุหลาบมีหลายชนิด หลายพันธุ์ ส่วนใหญ่ดอกมีกลิ่นหอมเย็น
การขยายพันธุ์มีหลายแบบ เช่น เพาะเมล็ด ตอน ติดตา และปักชำ
...กุหลาบหอมหวล

ส่งกลิ่นยียวนแสนยวนยั่วหัวใจ
ทั้งหอมทั้งหวาน

ดอกเพิ่งบานใหม่ ๆ ...
...ฉันมั่นใจกุหลาบเป็นไม้งามละม่อม

ควรจะออมถนอมชม
ทุก ๆ คนพอใจมักเด็ดเอาไปดอมดม

หรือจะชมเสียบผมชื่นอุรา
สวยสีสรรค์ทุก ๆ พรรณสุดจะเด่น

กลิ่นเยือกเย็นสีที่เห็นไม่บาดตา
กลีบเกสรกลีบอ่อนซ้อนกันดูงามสง่า

ทุกเวลารวยรื่นนาสาน่าดม...
...ริมธารละลานไปด้วยบุปผา

ดอกแดงกุหลาบพนาสลับลัดดากล้วยไม้ไพร...

ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม กาหลง


กาหลง
เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 3 เมตร ใบเป็นแบบใบเดี่ยว รูปไข่ ปลายเว้าลึกคล้ายใบแฝด
ดอกขาวออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งและกิ่งข้าง ดอกกาหลงมีกลีบ 5 กลีบ เกสร 10 อัน ขนาดต่าง ๆ กัน มีกลิ่นหอมรวยริน ฝักแบนมีเมล็ดประมาณ 5-10 เมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการตอน กาหลงออกดอกได้ตลอดปี

ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม กระดุมทอง


เป็นกระดุมทอง
ไม้ล้มลุกพุ่มเตี้ย สูงประมาณ 50 เซนติเมตร ลำต้นมีขนทึบใบเดี่ยว เรียงตรงกันข้าม สัณฐานใบเป็นรูปไข่ หรือรูปรีกว้าง ใบกว้างประมาณ 3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ปลายแหลมโคนสอบ ขอบเรียบหรือหยักซี่ฟัน ผิวใบมีขนสากทั้ง 2 ด้าน เส้นแขนงใบข้างละ 1 เส้น ก้านใบสั้นมีครีบ มีขนตามก้านใบและขอบครีบ ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกดอกเดี่ยว ๆ หรือออกเป็นคู่ ตามง่ามใบใกล้ยอดดอกโตประมาณ 3 เซนติเมตร ก้านดอกยาว 1-8 เซนติเมตร โคนช่อมีใบประดับมีขนเรียงกันถี่ โคนใบประกอบชั้นนอกใหญ่ขึ้นเมื่อดอกร่วงไป ดอกวงนอกเป็นดอกตัวเมีย มีประมาณ 10 ดอก กลีบดอกสีเหลืองรูปรี กว้างประมาณ 3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร รังไข่เล็ก ดอกวงในเหมือนดอกตัวเมีย แต่รังไข่ไม่สมบูรณ์ ดอกตัวผู้มีขนาดเล็กมากและเป็นหมัน อยู่กลางกระจุกดอก ผลมีสัณฐานเป็นรูปสามเหลี่ยม ยอดแบน เมล็ดเล็กสีดำเป็นมัน ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม กระดังงาสงขลา


กระดังงาสงขลา
เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 เมตร ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวยาว กลีบรองดอกมีสามกลีบ สีเขียว มีขนาดสั้น กลีบใบเรียวสองชั้น ชั้นนอกมี 5 กลีบ ชั้นในมี 15 กลีบ ปลายกลีบเรียวแหลมโคนกลีบด้านในมีแต้มสีน้ำตาล ที่ฐานกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียติดอยู่
กระดังงา ออกดอกตลอดปี มีกลิ่นหอมอบอวล ขยายพันธุ์ด้วยการตอน

ไม้ดอกเป็นพุ่ม กรรณิการ์


กรรณิการ์

เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 เมตร ลำต้นและกิ่งเป็นเหลี่ยม ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวออกเป็นคู่ เรียงตรงข้าม ใบทรงรูปไข่ ขอบใบเรียบหรือมีจักเล็กน้อย
ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง เป็นดอกเดี่ยวมีโคนกลีบติดกัน มีลักษณะเป็นหลอดสีส้ม กลีบดอกแคบ ปลายกลีบสีขาวและไม่เสมอกัน จะมีกลิ่นหอมตอนกลางคืน และดอกจะร่วงหมดในตอนเช้า ผลมีลักษณะเป็นแผ่นแบน ภายในมีเมล็ดอยู่ 2 เมล็ด
ขยายพันธุ์โดยการตอนหรือปักชำ

ดอกแคคตัส


ดอกไม้ แคคตัส เป็นไม้ทนแล้งที่บ้านเราเรียกกันว่าต้นตะบองเพชร แคคตัส เป็นคำมาจากภาษกรีกโบราณ เป็นชื่อเรียกไม้อวบน้ำที่มีรูปร่างแปลกๆ ไร้ใบ มีแต่หนาม แคคตัส มีถิ่นกำเนิดในภูมิประเทศแห้งแล้ง ทุรกันดาร จึงไม่มีใบเพื่อลดการคลายน้ำ แคคตัสจะใช้ลำต้นสีเขียวทำหน้าที่สังเคราะห์แสงแทนใบ น้ำเลี้ยงจะถูกดูดเก็บไว้ในลำต้นเพื่อเก็บไว้ใช้ในยามที่ขาดน้ำ แคคตัสในประเทศไทยทุกชนิดทุกสายพันธุ์ล้วนเป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ด้วยรูปทรงที่แปลกตาและมีดอกที่มีรูปทรงและสีสันสวยงามจึงทำให้แคคตัสได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ปลูกง่าย ดูแลง่าย ซื้อตั้งทิ้งไว้รดน้ำบ้างไม่รดน้ำบ้างก็อยู่ได้ ว่างๆ จะนำเสนอวิธีการปลูกเลี้ยงให้ทราบกัน กลับหน้าแรก ดอกไม้ / หน้าแรกทัวร์ดอย ข้อมูลท่องเที่ยว

ดอกกุหลาบ


กุหลาบ > ดอกไม้ กุหลาบ เป็นไม้ประดับที่มีความสวยงามเป็นที่นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับกันอย่างกว้างขวาง กุหลาบมีมากมายหลายพันธุ์ มีทั้งชนิดที่มีกลิ่นหอม และชนิดที่ไม่มีกลิ่น ภาพชุดนี้ได้รวบรวมกุหลาบชนิดต่างๆ มาให้ชม บางชนิดอาจจะคุ้นตา แต่บางชนิดไม่ค่อยมีให้เห็น ภาพชุดนี้เป็นกุหลาบเมืองเหนือ จากสถานีเกษตรดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นแหล่งรวมรวบกุหลาบหลากสายพันธุ์ ผมก็ไม่ค่อยได้จดจำชื่อ เอาเป็นว่า ทั้งหมดนี้คือ กุหลาบ กลับหน้าแรก ดอกไม้ / หน้าแรกทัวร์ดอย ข้อมูลท่องเที่ยว

กล้วยไม้ป่า


กล้วยไม้ กล้วยไม้ป่า กล้วยไม้ดิน
กล้วยไม้ เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มีลำต้นอวบน้ำ จัดอยู่ในจำพวกไม่มีเนื้อเยื่อ กล้วยไม้เป็นไม้ดอกที่มีจำนวนชนิดมากที่สุดของบรรดาดอกไม้ทั้งหลาย ในธรรมชาติพบกว่า 19,000 ชนิด และยังมีกล้วยไม้ลูกผสมที่เกิดจากฝีมือมนุษย์อีกเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถประเมินได้ และทุกวันนี้ยังมีกล้วยไม้ชนิดใหม่ๆ ออกมาอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีกล้วยไม้ป่า และ กล้วยไม้ดิน ที่พบอยู่ในธรรมชาติอีกเป็นจำนวนมาก
กล้วยไม้เป็นพืชที่ทนทาน ปลูกเลี้ยงง่าย ดอกมีรูปทรงและสีสันที่สวยงามจึงทำให้กล้วยไม้เป็นต้นไม้ประเภทให้ดอกที่มีคนนิยมปลูกกันมากที่สุด กล้วยไม้มีมากมายหลายชนิด แยกชนิดคร่าวๆ ที่นิยมปลูกและแพร่หลายอยู่ในตลาดได้แก่
1. ตระกูล รองเท้านารี ( Paphiopedilum Slipper orchid ) เป็นที่รู้จักกันทั่วไปในหมู่นักนิยมกล้วยไม้ เป็นกล้วยไม้ที่ปลูกลงกระถาง มีลักษณะสวยงามทั้งต้นและดอก ดอกบานทนเป็นสัปดาห์ แต่การปลูกเลี้ยงโดยทั่วไปยังมีอุปสรรคเพราะกล้วยไม้ตระกูลนี้ค่อนข้างจะอ่อนแอแต่โรคราในดิน นิยมปลูกใส่กระถางปากกว้างก้นตื้นแบบวางพื้น วัสดุปลูกต้องเหมาะสมและต้องใส่ใจกับการดูแลเป็นอย่างมากถึงจะรอดและให้ดอกสวยงาม
2. แคทลียา หรือ คัทลียา ( Cattleya ) เป็นกล้วยไม้ที่นิยมปลูกกันมาก ออกดอกเป็นเดี่ยวและดอกคู่ มีดอกที่มีขนาดใหญ่และมีรูปทรงและสีสันที่สวยงามมาก จนได้รับฉายาว่าเป็นราชินีแห่งกล้วยไม้ และ สัญลักษณ์สากลของกล้วยไม้ ใบอวบอ้วนและเป็นปล้อง รากจะเกาะยึดแนบไปกับวัสดุปลูก นิยมปลูกใส่กระถางแบบแขวน แคทลียาส่วนใหญ่ดอกจะมีกลิ่นหอมมาก มีมากมายหลายชนิดส่วนใหญ่เกิดจากกล้วยไม้ลูกผสมโดยฝีมือมนุษย์และยังมีชนิดใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างไม่สิ้นสุด คลิกอ่านการปลูกกล้วยไม้แคทลียา
3. กล้วยไม้ตระกูลหวาย หรือ เด็นโดเบี้ยม ( Dendrobium ) เป็นสกุลที่มีจำนวนชนิดมากที่สุด นิยมปลูกกันมาก ทั้งปลูกเป็นไม้ดอกประดับและปลูกเป็นอุตสาหกรมกล้วยไม้ตัดดอกเพื่อการส่งออก ที่เห็นๆ ก็คือกล้วยไม้บูชาที่ขายตามร้านดอกไม้กำบูชาพระ ไม้ตระกูลหลายได้รับการพัตนาพันธุ์เกิดสีสันต่างๆ มากมายตามที่ตลาดต้องการ ปลูกง่ายทนทาน ลำต้นเจริญในแนวดิ่ง ลำต้นเป็นกล้อง ใบออกสลับซ้ายขวา เกิดหน่อได้ง่าย ปลูกได้ทั้งบนวัสดุปลูกที่เป็นกาบมะพร้าวที่อัดเป็นแพง หรือวัสดุปลูกที่เป็นดินเถากระถางแตกและถ่าน
4. กล้วยไม้ตระกูลเข็ม หรือ แอสโคเซนตัม ( Ascocentrum ) เป็นกล้วยไม้อิงอาศัย ใบแข็ง ตั้งตรง หรือเอนเล็กน้อย ออกดอกเป็นช่อ แต่ละต้นมักมีหลายชื่อ ดอกเล็กและดก ดอกบานอยู่นาน 1 สัปดาห์หรือมากกว่า ปลูกเลี้ยงง่าย ทนทาน ตายยาก ขนาดต้นกระทัดรัดไม่ใหญ่เก้งก้างเหมือนแวนด้า ดอกมีสีนสันสดใส ปัจจุบันมีการพัฒนาพันธุ์เกิดชนิดใหม่ๆ มากมาย นิยมปลูกเป็นไม้กระถางกันมาก ปลูกได้ทั้งกระถางไว้แบบแขวน และกระถางดินเผาแบบแขวน หาง่ายราคาถูก

5. กล้วยไม้ตระกูล สิงโต ( Bulbophyllum ) เป็นสกุลที่มีจำนวนชนิดมากเป็นอันดับสองรองจากกล้วยไม้ตระกูลหวาย Dendrobium ในเมืองไทยพบในธรรมชาติกว่า 130 ชนิด แต่ละชนิดมักใช้คำว่า สิงโตนำหน้า เป็นกล้วยไม้ที่มีความหลากหลายของช่อดอก มีทั้งดอกช่อ ดอกเดี่ยว รูปทรงของดอกแต่ละชนิดก็แตกต่างกันไป เป็นกล้วยไม้ที่นักนิยมปลูกเลี้ยงเพื่อการสะสม จนได้มีการจัดตั้งกลุ่มชมรมผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้สิงโตขึ้นมา การประกวดกล้วยไม้ก็จะมีการแยกประเภทกล้วยไม้สิงโตโดยเฉพาะ

ดอกบัวหลวง


ดอกไม้ ดอกบัว บัว เป็นบัวหลวง หรือดอกบัวที่ใช้จัดแจกันบูชาพระ มีดอกและใบชูขึ้นเหนือน้ำ ใบสีเขียวนวลค่อนข้างกลม ขอบใบเรียบ ผิวด้านบนมีขนอ่อนๆ และนวล ดอกมี 4 สี ได้แก่ สีขาว สีแดง สีชมพู และสีเหลือง ติดผลเป็นฝัก การขยายพันธุ์ บัวหลวงมีไหล ชอนไชไปตามหน้าดิน ต้นใหญ่จะเกิดมาจากไหลเหล่านั้น ปลูกต้นเดียวถ้าไม่ตายในหนึ่งปีขายออกไปได้เยอะจนกระทั่งเต็มบึง
บัวสาย เป็นบัวที่อยู่ตามหนองบึงที่มีระดับน้ำลึก เป็นบัวที่ชาวบ้านมักนิยมเก็บก้านดอกมาทำอาหาร หรือที่เรียกว่า สายบัว แม้ปัจจุบันนี้ยังนิยมนำมาปรุงอาหารเช่น แกงเลียงสายบัว บัวสายมีใบที่ใหญ่ ขอบใบหยัก มีดอกสีบานเย็น สีขาว และสีชมพู ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน การขยายพันธุ์ บัวสายมีเหง้าอยู่ใต้ดิน เมื่อต้นเก่าโทรมไปเมื่อน้ำแห้ง ครั้นถึงฤดูน้ำท่วมหัวเหล่านั้นก็จะแตกต้นอ่อนขึ้นมาใหม่ และอีกแบบคือการเพาะเมล็ด
บัวผัน บัวเผื่อน เป็นบัวพื้นเมืองที่ขึ้นอยู่ตามทุ่งนา ตามหนองน้ำ และน้ำคูน้ำริมถนนที่พบเห็นได้ทั่วไปเมื่อเดินทางออกไปตามชนบทที่มีน้ำท่วมขัง ดอกบานตอนเช้าและหุบในตอนเย็น ใบรูปไข่จนถึงกลม ดอกมีหลายกลีบ มีกลิ่มหอม การขยายพันธุ์ใช้วีธีการเพาะเมล็ด
บัวลูกผสมกลุ่มบัวผัน บัวผันมีดอกเล็กและมีกลีบดอกน้อย ปัจจุบันได้มีการผสมพันธุ์ผัวบันเกิดเป็นบัวลูกผสมที่กลีบดอกซ้อนสีสันสวยงาม และเป็นที่นิยมปลูกประดับกันทั่วไป บัวประดับที่พบเห็นส่วนใหญ่ล้วนเป็นบัวลูกผสมของกลุ่มบัวผันเกือบทั้งหมด สำหรับชื่อของพันธุ์ลูกผสมนั้นมีชื่อเรียกกันมากมายแล้วแต่ผู้คิดค้นพันธุ์จะตั้งชื่อ ตั้งชื่อตามเจ้าของบ้าง ตั้งชื่อใหม่ตามจินตนาการบ้าง จดจำกันไม่หวัดไม่ไหว ขายยพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ไม้น้ำที่มีดอกสวยงามเป็นที่นิยมปลูกประดับตามบ้านและตามสวนหย่อม บัว ของไทยมีหลายชนิด แบ่งเป็นประเภทได้ดังนี้

อีกชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกในเมืองไทย ได้แก่บัวนอกหรือบัวฝรั่ง มีสีสันสวยงาม มีรูปทรงดอกสวย ใบกลมมันสวย สมัยก่อนมีราคาแพงต้นละ 1000 กว่าบาท ลดลงมาเหลือ 500 บาท 300 บาท จนตอนหลังนี้เหลือกระถางละ 150 บาท ไปจนถึง กระถางละ 50 บาท แต่ไปอาจจะราคา 3 กระถาง 100 , แต่ละชนิดมีสีสวยงามทั้งสีขาว สีแดง สีชมพู สีเหลือง ดอกเหลืองเกสรชมพู สารพัด บัวนอกจะมีลำต้นอยู่ใต้ดิน เจริญเติบโตไปทิศทางข้างหน้าลักษณะเหมือนไหลบัว การขยายพันธุ์เพียงแค่ตัดลำต้นออกเป็นท่อนๆ แล้ววางไว้ก็จะแตกกอใหญ่ออกมามากมาย ด้วยเหตุที่ขยายพันธุ์ง่ายจึงทำให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว

ดอกทิวลิป


ดอกไม้ > ดอกไม้เมืองหนาว > ดอกทิวลิป
พาเที่ยวชมทุ่งดอกทิวลิปบานที่เชียงราย ชมดอกทิวลิปไม่ต้องไปไกลถึงเนเธอร์แลนด์ ทุกฤดูหนาวจะมีทุ่งทิวลิปให้ชมในงาน เทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม จัดโดยจังหวัดเชียงราย โดยมี นายกเทศมนตรีเชียงรายเป็นแม่งาน เชียงรายมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว มีสวนดอกไม้สวยๆ ให้นักท่องเที่ยวชมตลอดปีอย่างเช่นที่ สวนดอกไม้ดอยตุง และสวนดอกไม้ตามรีสอร์ต่างๆ จะมีดอกไม้เมืองหนาวออกดอกสวยงามในช่วงฤดูหนาว แม้กระทั่งในตัวเมืองเชียงรายก็มีดอกไม้ปลูกกุหลาบลงแปลงไว้บนเกาะกลางถนน ออกดอกสวยงามตลอดปี ดอกสวยกว่าปลูกในกระถางอย่างบ้านเราในเมืองพื้นราบซะอีก ทางจังหวัดต้องการส่งเสริมให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งดอกไม้งาม จึงได้จัดงานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งามขึ้นทุกปีในช่วงฤดูหนาวปลายปี กำหนดการณ์แน่นอนรอฟังข่าว ตอนนี้ไม่ต้องไปไกลถึงเชียงราย ชมอย่างจุใจจากหน้าเวบ ผมถ่ายไว้ขณะพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวเชียงรายเมื่อปีที่ผ่านมาครับ หากคนรู้จักต้องการไปเที่ยวเชียงรายฝากแนะนำ ทัวร์ดอย ด้วยครับ ชมภาพดอกทิวลิปอีกมายมากอย่างจุใจ คลิกชมทิวลิป

ดอกเทียนนกแก้ว


เทียนนกแก้ว ดอกไม้แปลกตาเป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นของไทย หาไม่ได้จากที่ใดๆ ในโลก จัดอยู่ในกลุ่มของต้นเทียน มีรูปทรงดอกที่สวยงามเหมือนดั่งนกที่โดนแมวกัดไปครึ่งตัว เราเรียกชื่อตามลักษณะรูปทรงว่า เทียนนกแก้ว จัดอยู่ในกลุ่มพืชล้มลุก ลำต้นอวบน้ำ สูง 0.5-1.5 เมตร ใบเดี่ยวรูปไข่กว้าง โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบจัก ขนาดกว้าง 2-4 ซม. ยาว 5-10 ซม. ลักษณะดอกเหมือนดังที่เห็นในภาพ ออกเดี่ยวตามก้านใบ หรือปลายยอด ขนาดดอกกว้าง 2-3 ซม. ยาวประมาณ 5-7 ซม. ช่วงเวลาออกดอก ต.ค. - พ.ย. ประโยชน์คือ สวย ชมแล้วชื่นใจ
เทียนนกแก้ว เป็นพรรณไม้บนเขาสูงไม่สามารถหาชมได้จากแปลงดอกไม้ตามพื้นราบทั่วไป ระดับความสูงที่พบต้นเทียนนกแก้วคือ 1,500 -1,800 เมตร และพบได้เพียงที่เดียวคือที่ดอยหลวงเชียงดาว ดอกจะบานราวเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน คนทั่วไปจึงไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะอยู่บนภูเขาสูง การไปชมนั้นจะต้องเดินขึ้นภูเขาไปชม ดงดอกเทียนนกแก้วก็เป็นอีกจุดหนึ่งของเส้นทางท่องเที่ยวของทริปทัวร์ แต่ละทริปจะใช้เวลา 3 วัน 2 คืน บนดอยแห่งนี้ไม่ใช่จะมีแค่เพียงดอกเทียนนกแก้ว ที่นี่ยังมีพรรณไม้ที่สวยงามและหาชมไม่ได้จากที่ใดๆ ในโลกอีกหลายชนิด คลิกชมภาพทริปชมดอกไม้บนดอย หากท่านผู้ชมสนใจไปเที่ยวชมควรเตรียมร่างกายให้พร้อม ปกติจะจัดไปในช่วงเดือนพฤศจิกายน หากสนใจสามารถร่วมเดินทางไปกับทริปของเราได้ โปรแกรมทัวร์ ข้อมูลการเดินทาง